บทบาทครูในศตวรรษที่ 21
ในศตวรรษที่ 21
ต่างจากเด็กยุคเก่าอย่างมาก คือ
ความรู้เยอะและความรู้ที่วิ่งเข้ามาหาตัวเด็กมีเยอะมาก
เพราะฉะนั้นการเรียนในห้องเรียนเป็นเรื่องยากมากที่เด็กจะสนใจเพราะมีเรื่อง
อื่นที่น่าสนใจมากกว่า
ในศตวรรษนี้เป็นยุคของ IT
จำนวนมวลความรู้มันเพิ่มขึ้นมหาศาลอย่างรวดเร็วทุกวันเราไล่ตามไม่ทัน
ฉะนั้นเราก็ไม่ได้ต้องการนัดเรียนที่เรียนเก่ง ท่องเก่งเพียงอย่างเดียว
แต่ก็ยังอยากได้เด็ก อยากได้นักเรียน อยากได้บัณฑิตที่ใฝ่รู้
อยากเรียนรู้ของใหม่ๆอยู่เรื่อยๆและต้องรู้วิธีที่จะเรียนรู้ด้วย
คือมีทักษะในการเรียนรู้ ที่เรียกว่า Learning skill
และต้องมีทักษะการใช้ชีวิตที่ดีด้วย เรียกว่า Life skill
ควบคู่ไปพร้อมกันด้วย
สำหรับ
โลกในศตวรรษที่ 21
นั้นนอกจากความรู้ในสาระวิชาหลักที่เด็กควรจะได้รับการสอน
เด็กควรจะได้รู้แนวคิดสำคัญในศตวรรษที่ 21
ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับโลก ความรู้ด้านการเงิน เศรษฐศาสตร์
ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ความรู้ด้านการเป็นพลเมืองที่ดี ความรู้ด้าน
สุขภาพ ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้เด็กควรได้รับการปลูกฝังทักษะสำคัญ 3 เรื่องอีกด้วย คือ
- ทักษะชีวิตและการทำงาน ซึ่งประกอบไปด้วย
- ความยืดหยุ่นและการปรับตัว
- การริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง
- การเป็นผู้สร้างหรือผลิตและความรับผิดชอบ เชื่อถือได้
- ทักษะด้านสังคมและทักษะข้ามวัฒนธรรม
- ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ
- ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม
- ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และนวัตกรรม
- การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา
- การสื่อสารและความร่วมมือ
- ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี
- ใช้เทคโนโลยีใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้และประเมินสารสนเทศได้อย่างเท่ากัน
- วิเคราะห์และเลือกใช้สื่อที่เหมาะสม
- ทักษะด้านภาษา
และ
เพื่อให้กระบวนการเรียนรู้ต่างๆประสบความสำเร็จ
ต้องจำเป็นที่มีโครงสร้างพื้นฐาน 4 ด้าน
เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
คือ มาตรฐานในการเรียนรู้ หลักสูตรและการเรียนการสอน การพัฒนาครูในศตวรรษ
ที่ 21 และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้
การ
เรียนการสอนแบบเก่าคุณครูก็สอนและมุ่งที่จะให้ความรู้แก่เด็กเยอะและเด็กก็
มีหน้าที่รับความรู้เยอะๆและก็ท่อง ในการเรียนการสอนแบบนี้อาจจะเหมาะใน 100
หรือ 200 ปีที่ผ่านมา จุดสำคัญ คือ ต้องเปลี่ยนวิธีการของการศึกษา
เปลี่ยนเป้าหมายจากความรู้ไปสู่ทักษะ เปลี่ยนจากเอาครูเป็นหลักในการสอน
เป็นนักเรียนเป็นหลักในการเรียนรู้ เรียนโดยการปฏิบัติที่เรียกว่า Project
Based Learning คือนักเรียนต้องเรียนโดยการทำ Project
การ
เรียนแบบ Project Based Learning หรือ PBL
เป็นการเรียนที่ฝึกให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการทำงานจริงหรือ Project
ต่างๆ โดยที่ครูเป็นเพียงผู้ที่คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ
การเรียนแบบนี้จะช่วยให้เด็กได้ฝึกทักษะต่างๆ ตั้งแต่การตั้งคำถาม
การค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตัวเอง
การตรวจสอบและประเมินข้อมูลเพื่อนำสิ่งที่เหมาะสม ถูกต้องมาใช้กับ Project
ได้ฝึกปฏิบัติจริง เพิ่มทักษะในการศึกษา การนำเสนองานอย่างสร้างสรรค์
และที่สำคัญที่สุดยังได้ฝึกการทำงานเป็นทีม
มีการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันเพื่อต่อยอด
ไปสร้างเป็นองค์ความรู้ของตัวเองต่อไป
Project
หนึ่งเราสามารถออกแบบและใส่เงื่อนไขให้นักเรียนได้รู้ทักษะสารภัตด้าน
และครูต้องฝึกการเป็นครูฝึก (Coach)
ให้นักเรียนได้ฝึกทำงานเพื่อให้บรรลุยังเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
การศึกษาจะต้องเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่เราคุ้นเคย
จากหน้ามือเป็นหลังมือเยอะมาก ถ้าเรียนแบบปัจจุบันจะส่งผลต่อเราคือ
เด็กจะเสียคน ในสัดส่วนที่มีการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่มีแรงบันดาลใจ
ไม่มีความสนุก น่าเบื่อ และที่สำคัญคือทั้งชาติโง่ เพราะเรียนแค่ได้ความรู้
ไม่ได้ทักษะ รวมถึงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
(Information and Commumication Technology – ICT)
เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้การศึกษาในอุดมคติเป็นจริงได้
เพราะสามารถแสดงอักษร ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว
รวมถึงการสร้างสถานการณ์เสมือนจริง (Virtual Situation)
ได้เหมือนๆกับที่หนังสือ หนังสื่อภาพ เทปเสียง วีดีทัศน์หรือสื่ออื่นๆ
ที่มีทั้งหมด รวมทั้งเพิ่มการปฏิสัมพันธ์ (Interaction)
กับผู้ใช้ได้และสร้างเครือข่ายให้สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างไร้ขอบเขต
ในแง่ของสถานที่ที่แตกต่างคนละ แห่งกัน ทำให้ในศตวรรษที่ 21
เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทต่อนักเรียนและครูเป็นอย่างมาก
บทบาทครูในศตวรรษที่ 21
ครูในยุคศตวรรษที่ 21 ต้องมีลักษณะที่เรียกว่า E-Teacher
- Experience มีประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้แบบใหม่ เช่น เรียนผ่านสื่อเทคโนโลยี Internet, E-mail เป็นต้น
- Extended มีทักษะการแสวงหาความรู้ใหม่ๆเพื่อขยายองค์ความรู้ของตนเองตลอดเวลา ผ่านทางสื่อเทคโนโลยี
- Expanded มีความสามารถในการถ่ายทอดหรือขยายความรู้ของตนเองสู่นักเรียนผ่านสื่อเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Exploration มีความสามารถในการเสาะหาและคัดเลือกเนื้อหาความรู้หรือเนื้อหาที่ทันสมัย เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ผ่านทางสื่อเทคโนโลยี
- Evaluation เป็นนักประเมินที่ดี มีความบริสุทธิ์และยุติธรรม และสามารถใช้เทคโนโลยีในการประเมินผล
- End-User เป็นผู้ที่ใช้สื่อเทคโนโลยี (user) อย่างคุ้มค่า และใช้ได้อย่างหลากหลาย
- Enabler สามารถใช้เทคโนโลยีสร้างบทเรียน เนื้อหา และสื่อการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Engagement ต้องร่วมมือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันผ่านสื่อเทคโนโลยี จนพัฒนาเป็นเครือข่ายความร่วมมือ เช่น เกิดชุมชนครูบน web
- Efficient and Effective สามารถใช้สื่อเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทั้งในฐานะที่เป็นผู้ผลิตความรู้ ผู้กระจายความรู้ และผู้ใช้ความรู้
ห้องเรียนสำหรับการศึกษาศตวรรษที่ 21
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น